ความแตกต่างระหว่าง Microsoft Planner กับ Microsoft Project
Microsoft Planner และ Microsoft Project เป็นเครื่องมือยอดนิยมสองอย่างที่ธุรกิจใช้ในการจัดการโครงการอย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งสองมีคุณสมบัติและข้อดีที่เป็นเอกลักษณ์ของตัวเอง ถ้าคุณกำลังพยายามตัดสินใจระหว่าง Microsoft Planner และ Microsoft Project สำหรับความต้องการในการจัดการโครงการของคุณ เพื่อเลือกเครื่องมือที่เหมาะกับงาน โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อผลิตภัณฑ์ทั้งสองมีคุณสมบัติและความสามารถอันทรงพลัง
ในบทความนี้ เราจะเปรียบเทียบ Microsoft Planner และ Microsoft Project เพื่อช่วยคุณตัดสินใจว่าอันใดที่เหมาะกับความต้องการในการจัดการโครงการของคุณมากที่สุด ทำงานร่วมกันบนเว็บได้อย่างง่ายดาย ติดตามงานที่ขึ้นอยู่กับกันและกัน
การเปรียบเทียบ Microsoft Planner Vs Microsoft Project
Microsoft Planner | Microsoft Project |
เครื่องมือแบบภาพ, ซอฟต์แวร์การจัดการโครงการจาก Microsoft | ซอฟต์แวร์การจัดการโครงการจาก Microsoft |
เหมาะสำหรับทีมขนาดเล็กที่มีโครงการเรียบง่าย | เหมาะสำหรับทีมขนาดใหญ่ที่มีโครงการที่ซับซ้อน |
Interface ส่วนต่อประสานผู้ใช้ที่ใช้งานง่าย | ต้องเรียนรู้ทักษะที่ซับซ้อน และต้องใช้เวลาในการเรียนรู้ |
มุมมองกระดานภาพและการ์ดงาน | มุมมองแผนภูมิแกนต์และไทม์ไลน์ (แผนผังคุมกำหนดงาน) |
การมอบหมายงาน การติดตาม และการรายงานความคืบหน้า | การมอบหมายงาน การกำหนดเวลา การติดตาม และการรายงานความคืบหน้า |
รองรับการแชร์ไฟล์ การทำงานร่วมกันและการสื่อสาร | รองรับการแชร์ไฟล์ การทำงานร่วมกันและการสื่อสาร |
ฟังก์ชันการรายงานพื้นฐาน เรียบง่าย | การรายงานที่หลากหลาย |
ส่งเสริมการทำงานร่วมกันบน Microsoft Teams | ส่งเสริมการทำงานร่วมกันบน Microsoft Teams |
สามารถเพิ่ม Guest access ที่ไม่มีสิทธิ์การใช้งาน Microsoft 365 ลงในแผนได้ | ไม่สามารถเพิ่ม Guest access ผ่าน Microsoft Project ได้ |
ฟรีหรือรวมอยู่ใน Microsoft 365 | ต้องชำระเงินและต้องมี License |
แอปบนเว็บ, iOS และ Android | แอปบนเว็บ, Windows app |
Microsoft Planner เป็นเครื่องมือการจัดการโครงการที่เป็นส่วนหนึ่งของชุด Microsoft 365 ได้รับการออกแบบมาเพื่อช่วยให้ทีมทำงานร่วมกัน จัดระเบียบ และวางแผนงานเพื่อให้มั่นใจว่าโครงการจะสำเร็จลุล่วง เป็นเครื่องมือแบบภาพที่ช่วยให้ผู้ใช้สร้างแผน มอบหมายงาน และติดตามความคืบหน้าได้อย่างง่ายและรวดเร็ว ด้วย Interface แบบลากและวางที่เรียบง่าย นอกจากนี้ยังทำงานร่วมกับแอปพลิเคชัน office อื่นๆ เช่น Outlook, SharePoint และ OneNote ทำให้ผู้ใช้สามารถแชร์ข้อมูลและทำงานร่วมกันได้ Microsoft Planner ยังมีชุดเทมเพลตเพื่อช่วยให้ผู้ใช้เริ่มต้นได้อย่างรวดเร็ว เทมเพลตเหล่านี้ใช้ได้กับโครงการทุกประเภท ตั้งแต่รายการสิ่งที่ต้องทำไปจนถึงโครงการที่ซับซ้อนไม่มาก นอกจากนี้ผู้ใช้ยังปรับแต่งแผนด้วยรูปภาพ บันทึกย่อ และ ภาพอื่น ๆ ได้อีกด้วย
ในส่วน Microsoft Project คือกลุ่มแอปพลิเคชันการจัดกำหนดการโครงการที่ยอดเยี่ยมสำหรับทีมงานโครงการขนาดกลางและขนาดใหญ่ มีเครื่องมือการทำงานร่วมกันเพื่อช่วยให้ทีมทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น เช่น การวางแผน การวางแผนทรัพยากรองค์กร (ERP) การลำดับความสำคัญ การวิเคราะห์ การจัดทำงบประมาณ และการคาดการณ์ รวมถึงสามารถแปลงข้อมูลโครงการโดย Power BI สำหรับการแสดงภาพข้อมูลเชิงลึก (อาจจำเป็นต้องมี License ใช้งาน Power BI แยกต่างหาก) ช่วยให้คุณรวบรวมข้อมูลพอร์ตโครงการสำหรับการรายงานขั้นสูงได้อย่างรวดเร็ว และประเมินข้อเสนออย่างเป็นระบบ นอกจากนี้ผู้ใช้ยังสามารถปรับแต่งแผนด้วยฟิลด์และมุมมองที่กำหนดเอง โดยปรับแต่งแผนตามความต้องการเฉพาะของตัวเองได้
Microsoft Planner และ Microsoft Project เป็นเครื่องมือที่ยอดเยี่ยมสำหรับการจัดการโครงการ Microsoft Planner ได้รับการออกแบบมาสำหรับทีมเฉพาะกิจในฐานะแพลตฟอร์มแบบรวมศูนย์สำหรับการทำงานร่วมกันเป็นทีม จึงเหมาะสำหรับทีมขนาดเล็กและโครงการที่เรียบง่าย ในทางกลับกัน Microsoft Project เป็นเครื่องมือที่ซับซ้อนมากขึ้นซึ่งใช้การจัดกำหนดการแบบแบ่งเป็นระยะ พร้อมฟีเจอร์ขั้นสูง เหมาะสำหรับทีมขนาดกลางและขนาดใหญ่ Microsoft Project จึงคือตัวเลือกที่ดีกว่า ท้ายที่สุดแล้วเครื่องมือที่เหมาะสมสำหรับโครงการของคุณจะขึ้นอยู่กับขนาดและความซับซ้อนของโครงการ
สนใจสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม
Tel: 021198405
Line: @M365th
Email: Sales@m365.co.th
อ้างอิง
https://www.microsoft.com/th-th/microsoft-365/project/project-portfolio-management#footnotes
https://ppm.express/blog/microsoft-project-vs-microsoft-planner /